Water Content Service บริการหาปริมาณความชื้น
ASTM D 4959-00
ในทางปฏิบัติ ความชื้นของดินหาได้จากการนำตัวอย่างดินที่มีขนาดน้ำหนักมากพอ (สำหรับขนาดเม็ดดินแต่ละชนิด) ไปอบให้แห้งที่อุณหภูมิ 105-5 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 18 – 24 ชั่วโมง จนดินแห้งและมีน้ำหนักคงที่ แล้วคิดความชื้นของดินเป็นสัดส่วนต่อน้ำหนักดินแห้งเป็นเปอร์เซ็นต์ ดินที่มีเม็ดละเอียดจะมีความชื้นได้สูงกว่าดินที่มีมีเม็ดหยาบ เนื่องจากดินเม็ดละเอียดมีพื้นที่เฉพาะ (Specific Surface) ซึมซับน้ำได้มากกว่า
วิธีการทดสอบ
1. ทำความสะอาดกระป๋องตัวอย่างดิน ตรวจสอบเบอร์กระป๋อง ชั่งน้ำหนักกระป๋อง (W1) ถ้าเป็นกระป๋องแบบมีฝาปิด
4. ชั่งน้ำหนักตัวอย่างดินเปียกรวมกระป๋อง (W2) ถ้าเป็นกระป๋องที่ไม่มีฝาปิด ต้องรีบชั่งตัวอย่างทันทีที่บรรจุตัวอย่างเสร็จ ส่วนกระป๋องมีฝาปิด หลังจากปิดฝาแล้ว อาจใส่ถาดรวมไว้หลายๆ ตัวอย่างจึงนำไปชั่งครั้งเดียวกัน
5. นำกระป๋องตัวอย่างเข้าอบในตู้อบ ถ้าเป็นกระป๋องตัวอย่างที่มีฝาปิด เปิดฝาออกสอดฝาไว้ที่ก้นกระป๋อง การทดลองที่มีกระป๋องตัวอย่างหลายๆ กระป๋อง ควรหาภาชนะใส่กระป๋องรวมกัน เพื่อสะดวกในการค้นหาตัวอย่างที่แห้งแล้ว
6. หลังอบตัวอย่างไว้ข้ามคืน (ประมาณ 18-24 ชั่วโมง) นำกระป๋องตัวอย่างดินออกจากตู้อบ แล้วปิดฝากระป๋อง นำตัวอย่างกระป๋องตัวอย่างไปใส่ไว้ในอ่างแก้วดูดความชื้น (ถ้ามี) ทิ้งไว้จนกระทั่งเย็น
7. นำกระป๋องตัวอย่างที่เย็นแล้วขึ้นชั่ง เป็นน้ำหนักตัวอย่างดินแห้งรวมกระป๋อง (W2) จดบันทึกน้ำหนักให้ถูกต้องตามเบอร์กระป๋อง
ความชื้นของดิน
ความชื้น,
Ww = น้ำหนักน้ำในดิน (กรัม)
Ws = น้ำหนักดินแห้ง (กรัม)
W1 = น้ำหนักกระป๋องดิน (กรัม)
W2 = น้ำหนักตัวอย่างดินเปียก+กระป๋อง (กรัม)
W3 = น้ำหนักตัวอย่างดินแห้ง+กระป๋อง (กรัม)
SORCE : http://www.gerd.eng.ku.ac.th/Cai/Ch03/ch032_W_theory.htm